28 ส.ค. 2554

พระพุทธรูปไม้พันปีใหญ่ที่สุดในโลก

เป็นพระพุทธรูปปางประทานพร (หรือเรียกอีกนัยหนึ่งว่าปางพระเจ้าเปิดโลก) ที่พระพุทธองค์เสด็จกลับสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ตรงกับวันออกพรรษาหลังจากพระพุทธองค์เสด็จไปโปรดพุทธมารดาชั้นดาวดึงส์เป็นเวลาสามเดือน เวลานั้นได้เกิดอัศจรรย์ปาฏิหาริย์ขึ้น ที่พระพุทธองค์เสด็จลงมานั้นมีเป็นบันใดเงิน บันใดทอง บันใดนาค มีพวกเทพทั้งหลายลงมาส่ง ขณะนั้นพวกมนุษย์ พวกสัตว์นรก ซึ่งมองเห็นกันด้วยตาเปล่าทั้งสามภูมิ จึงเกิดอัศจรรย์ปาฏิหาริย์ ตรงกับท่านที่เกิดวันจันทร์ จึงได้ทูลเกล้าถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันซึ่งขณะนั้นทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี

เจดีย์เกศแก้วจุฬามณี (พระธาตุชนะมาร)

เจดีย์เกศแก้วจุฬามณี (พระธาตุชนะมาร)  ความกว้าง 12 เมตร ความสูง 25 เมตร มีพระธาตุองค์เล็ก ๔ องค์ รายล้อมพระธาตุองค์ใหญ่ทั้ง ๔ ทิศ ความหมายมหาภูมิรูปทั้ง ๔ คือ ๑.ปฐวีดิน ๒.อาโปน้ำ ๓.เตโชไฟ ๔.วาโยลม มีเทพบุตร เทพธิดานั่งประนมกรลัอมรอบสดับรับฟังพระธรรม ตอนที่พระพุทธศาสนาถึงอายุครบ 5000 ปี พระบรมสารีริกธาตุที่อยู่ทุกหนทุกแห่งก็จะไหลมารวมกันเป็นพระรูปของพระพุทธองค์เทศนาธรรมให้เทพบุตร เทพธิดา บรรลุเป็นพระอริยะเจ้าแปดหมื่นสี่พันองค์ก็จะสูญสิ้นพระพุทธศาสนาในตอนนั้น ส่วนตรงประตูทางเข้าพระธาตุมีเทพผู้รักษาอยู่ มีเทพแม่ธรณี พระนางสุชาดา เทพแม่โภสพ พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม เทพพิฆเนตร เทพอิศวร รักษาประตูทั้งสาม เจดีย์เกศแก้วจุฬามณี มีความหมายรูปลักษณะสมบัติ โดยย่อ แบ่งเป็น ๒ โลก คือ โลกียะกับโลกุตระ ความหมายฐานล่างสุดเป็นของชั้นเทวอสูร ชั้นที่ ๒ มีภาพ ๔ ภาพแสดงถึงปฐมเหตุว่าเจดีย์หลังนี้ เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาได้อย่างไร มีช้างเอราวัณต่างเจดีย์ล้อมรอบ ๘ เชือก ความหมายคือองค์มรรค ๘ คือ ๑.สัมมาทิฏฐิ ๒.สัมมาสังกัปปะ ๓.สัมมาวาจา ๔.สัมมากัมมันตะ ๕.สัมมาอาชีวะ ๖.สัมมาวายามะ ๗.สัมมาสติ ๘.สัมมาสมาธิ ที่มีสามเศียรคือ ศีล,สมาธิ,ปัญญา หรืออีกความหมายหนึ่งคือ พระไตรลักษณ์คือ อนิจจัง,   ทุกขัง,   อนัตตา  ส่วนเทพที่ประทับบนคอช้างมีชื่อดังนี้   ท้าวจตุโลกบาล ๔  คือ ท้าวพญากุทระ    
รักษาทิศเหนือ ท้าวพญาธะตะระชะรักษาทิศตะวันออก ท้าวพญาวิรุฬหะกะรักษาทิศตะวันตก  ท้าววิรูปักขะ  รักษาทิศใต้  พระอวโลกิเตศวร (พระนาราย)   พญาอินตาธิราช   พญาท้าวมหาพรหม พญาพระอาทิตย์   (พระสุริยะ) ชั้นที่ ๔ ซุ้มแก้วรอบทั้งแปดทิศมีพระอรหันต์สาวกของ พระพุทธองค์ประจำทั้งแปดทิศดังนี้
           
.พระมหาโมคคัลลานะ          อยู่ทิศอุดร       (เหนือ)
            .พระราหุล                            อยู่ทิศอีสาน     (ตะวันออกเฉียงเหนือ)
            .พระอัญญาโกณฑัญญะ       อยู่ทิศบูรพา     (ตะวันออก)
            .พระมหากัสสปะ                 อยู่ทิศอาคเนย์   (ตะวันออกเฉียงใต้)
            .พระสารีบุตร                       อยู่ทิศใต้
            .พระอุบาลี                            อยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้
            .พระอานนท์                        อยู่ทิศปัจจิม   
            .พระควัมปติ                        อยู่ทิศพายัพ


            ชั้นที่ ๕ ส่วนเหนือซุ้มแก้วขึ้นไปรวมทั้งตัวรูประฆัง เป็นชั้น ๗ มีความหมายที่พบญาณบรรลุมรรคผลนิพพาน ต้องเจริญปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณปัญญาให้เกิดขึ้นจะข้ามโลกียะ เข้าสู่โลกุตรธรรมได้ต้องผ่านญาณ ๑๖ โดยการเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔ นั่นเอง.

26 ส.ค. 2554


๑. พระวิหารหลวง       เป็นศิลปะ ประยุกต์ร่วมสมัย ด้านบนหลังคาดูเหมือนเป็นกาแล แต่ที่จริงให้สังเกตชายคาข้างล่างจะเห็นเป็นหัวนาค(สะดุ้งตกใจ)นั้น ให้กลับมองขึ้นไปบนยอดหลังคาก็คือ หางนาคไขว่กันซึ่งแปลกจะไม่มีช่อฟ้า ลงมาด้านหน้าประตูเข้าสามช่องจะแกะสลักไม้แผ่นเดียว ดอกลวดลายไม่เหมือนกันมีถึงสามชั้น และมีภาพ(ปริศนา)ธรรมทำให้เกิดปัญญา มองเห็นความเป็นจริงของชีวิตที่หนีไม่พ้น ด้านในวิหารจะมีภาพพุทธศิลปะประยุกต์ร่วมสมัยเป็นภาพภพปัจจุบัน เป็นภาพตั้งแต่ประสูติจนถึงปรินิพพาน ซึ่งมาเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนใคร จะเน้นรูปความเป็นธรรมชาติ ด้านล่างจะมีรูปภาพสัตว์หิมพานต์ มีชื่อต่าง ๆ และด้านหลังจะเห็นภาพนางเทพอัปสรลูกสาว  ท้าวพญาพรหม ราศีประจำปีเกิด ๑๒ ราศี และตรงกลางมีพระประธานทรงปางมารวิชัย หลวงพ่อมงคลรัศมีหน้าตัก ๖๐ นิ้ว นั่งประทับใต้ต้นศรีมหาโพธิ์.

25 ส.ค. 2554

ข้อมูลพื้นฐาน
ชื่อสถานที่   ศูนย์วิปัสสนาสมเด็จสุญญตวิโมกข์  สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดน่านแห่งที่ 4
ที่อยู่     หมู่ที่ 15 บ้านโพธิ์ชัย                                       ตำบล           กลางเวียง                                                อำเภอ    เ วียงสา                                                    จังหวัด         น่าน                                                            รหัสไปรษณีย์     55110                                                โทรศัพท์     0819986904,0852307351           
E-mail.  autai@hotmail.co.jp

ประวัติและความเป็นมา
๑. ประวัติและความเป็นมาของศูนย์วิปัสสนากรรมฐานสมเด็จสุญวิโมกข์  สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดน่านแห่งที่ ๔ ( สาขาวัดดอนไชย )
ศูนย์วิปัสสนากรรมฐานสมเด็จสุญวิโมกข์    สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดน่านแห่งที่๔
( สาขาวัดดอนไชย ) มีเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่เศษ เดิมมีผู้ศรัทธา พ..ชินพร  คุณแม่เตือนจิตร  ดาวเสือ  เป็นเจ้าภาพร่วมกับชาวกรุงเทพฯ  รวบรวมซื้อที่แห่งนี้   ถวายแก่วัดดอนไชย  เพราะเห็นว่า   อุทกภัยน้ำท่วมตลิ่งพัง   คงจะต้องย้ายวัด   สถานที่แห่งนี้จึงว่างเปล่าประโยชน์หลายสิบปีดั้งนั้นทางเจ้าคณะอำเภอเวียงสา  หลวงพ่อพระสาราธิคุณ ได้มอบหมายให้ พระบุญชม   ฐิตฺปุญโญ    ได้ไปศึกษาปฏิบัติวิปัสสนาที่ วัดมหาธาตุ  กับเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์   
ดั้งนั้นเจ้าคณะอำเภอเวียงสา พร้อมกับคณะศรัทธาในอำเภอเวียงสาและใกล้เคียง จึงเห็นควรตั้งศูนย์เผยแพร่ พระพุทธศาสนาฝ่ายปฏิบัติวิปัสสนากัมมฐาน  ร่วมกับ พระสังฆาธิการฝ่ายสงฆ์  ดังนั้น   จึงได้ขอพระนามสถานที่เพื่อให้เป็นสิริมงคล   กับเจ้าประคุณสมเด็จ  พระพุฒาจารย์  ( อาจ  อาสภเถระ )  ได้พระนามอักษรตั้งให้  ศูนย์วิปัสสนาสมเด็จสุญญตวิโมกข์  เมื่อได้แล้วก็ได้มอบหมายให้เจ้าคุณพระสาราธิคุณ  เจ้าคณะอำเภอเวียงสาได้เปิดเป็นทางการ  เมื่อวันที่  ๓๑ พฤษภาคม  ๒๕๓๑  ตรงกับขึ้น  ๑๕  ค่ำ  วันวิสาขบูชา  ทางศูนย์วิปัสสนาก็ได้พัฒนามาตลอด  ทั้งสถานที่เสนาสนะ  และได้เป็นที่ฝึกอบรมวิปัสสนาหลายองค์กรทุกปีเป็นที่ประจักษ์เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย   จึงได้รับโล่จาก สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช   ในด้านเผยแพร่ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
ความหมายของคำว่า  สุญญตวิโมกข์  คือ  จิตหลุดพ้นด้วยเห็นความเป็นของว่างเปล่าแห่งสัตว์และสังขารทั้งหลาย  ความหลุดพ้นข้อนี้เกิดจากการพิจารณานามรูปให้เห็นเป็นของไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน  คืออนัตตานุปัสสนา  เมื่อเห็นว่าสัตว์และสังขารทั้งหลายเป็นอนัตตา  เพราะสัตว์และสังขารทั้งหลาย ไม่อยู่ในอำนาจของใคร มีลักษณะตรงกันข้ามกับสิ่งที่คนเข้าใจกันว่าเป็นอัตตาตัวตน เมื่อแยกย่อยออกไปแล้วเป็นของว่างเปล่าอย่างแท้จริง ไม่มีใครเป็นเจ้าของอะไรอย่างแท้จริง  เพราะล้วนแล้วแต่เป็นการรวมกันของสังขารทั้งนั้น  ขันธ์    จึงไม่เป็นตน  ตนไม่เป็นขันธ์    ขันธ์    ไม่มีในตน  และตนก็ไม่มีในขันธ์  ๕ เมื่อเกิดการรู้เห็นเช่นนี้  ย่อมถ่ายถอนทิฎฐิคาหะ  คือความยึดถือด้วยอำนาจทิฎฐิว่า  นั่นเป็นตัวตนของเราลงไปได้  การรู้เห็นที่เริ่มจากอนัตตานุปัสสนา  ท่านเรียกว่า  สุญญตวิโมกข์
            ปัจจุบันศูนย์วิปัสสนากรรมฐานสมเด็จสุญญตวิโมกข์ ( สาขาวัดดอนไชย ) ซึ่งมีพระครู                วิสุทธินันทญาณ หรือ พระอาจารย์บุญชม ฐิตฺปุญโญ ( ชนะมาร ) เป็นผู้อำนวยการ ได้จัดกิจกรรมอบรมเข้าค่ายคุณธรรม  ศีลธรรม  จริยธรรม  และ  การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน    เบื้องต้น ให้แก่เยาวชน ข้าราชการ และประชาชนที่สนใจ อยู่เป็นประจำ