เจดีย์เกศแก้วจุฬามณี (พระธาตุชนะมาร) ความกว้าง 12 เมตร ความสูง 25 เมตร มีพระธาตุองค์เล็ก ๔ องค์ รายล้อมพระธาตุองค์ใหญ่ทั้ง ๔ ทิศ ความหมายมหาภูมิรูปทั้ง ๔ คือ ๑.ปฐวีดิน ๒.อาโปน้ำ ๓.เตโชไฟ ๔.วาโยลม มีเทพบุตร เทพธิดานั่งประนมกรลัอมรอบสดับรับฟังพระธรรม ตอนที่พระพุทธศาสนาถึงอายุครบ 5000 ปี พระบรมสารีริกธาตุที่อยู่ทุกหนทุกแห่งก็จะไหลมารวมกันเป็นพระรูปของพระพุทธองค์เทศนาธรรมให้เทพบุตร เทพธิดา บรรลุเป็นพระอริยะเจ้าแปดหมื่นสี่พันองค์ก็จะสูญสิ้นพระพุทธศาสนาในตอนนั้น ส่วนตรงประตูทางเข้าพระธาตุมีเทพผู้รักษาอยู่ มีเทพแม่ธรณี พระนางสุชาดา เทพแม่โภสพ พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม เทพพิฆเนตร เทพอิศวร รักษาประตูทั้งสาม เจดีย์เกศแก้วจุฬามณี มีความหมายรูปลักษณะสมบัติ โดยย่อ แบ่งเป็น ๒ โลก คือ โลกียะกับโลกุตระ ความหมายฐานล่างสุดเป็นของชั้นเทวอสูร ชั้นที่ ๒ มีภาพ ๔ ภาพแสดงถึงปฐมเหตุว่าเจดีย์หลังนี้ เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาได้อย่างไร มีช้างเอราวัณต่างเจดีย์ล้อมรอบ ๘ เชือก ความหมายคือองค์มรรค ๘ คือ ๑.สัมมาทิฏฐิ ๒.สัมมาสังกัปปะ ๓.สัมมาวาจา ๔.สัมมากัมมันตะ ๕.สัมมาอาชีวะ ๖.สัมมาวายามะ ๗.สัมมาสติ ๘.สัมมาสมาธิ ที่มีสามเศียรคือ ศีล,สมาธิ,ปัญญา หรืออีกความหมายหนึ่งคือ พระไตรลักษณ์คือ อนิจจัง, ทุกขัง, อนัตตา ส่วนเทพที่ประทับบนคอช้างมีชื่อดังนี้ ท้าวจตุโลกบาล ๔ คือ ท้าวพญากุทระ
รักษาทิศเหนือ ท้าวพญาธะตะระชะรักษาทิศตะวันออก ท้าวพญาวิรุฬหะกะรักษาทิศตะวันตก ท้าววิรูปักขะ รักษาทิศใต้ พระอวโลกิเตศวร (พระนาราย) พญาอินตาธิราช พญาท้าวมหาพรหม พญาพระอาทิตย์ (พระสุริยะ) ชั้นที่ ๔ ซุ้มแก้วรอบทั้งแปดทิศมีพระอรหันต์สาวกของ พระพุทธองค์ประจำทั้งแปดทิศดังนี้
๑.พระมหาโมคคัลลานะ อยู่ทิศอุดร (เหนือ)
๒.พระราหุล อยู่ทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ)
๓.พระอัญญาโกณฑัญญะ อยู่ทิศบูรพา (ตะวันออก)
๔.พระมหากัสสปะ อยู่ทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้)
๕.พระสารีบุตร อยู่ทิศใต้
๖.พระอุบาลี อยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้
๗.พระอานนท์ อยู่ทิศปัจจิม
๘.พระควัมปติ อยู่ทิศพายัพ
ชั้นที่ ๕ ส่วนเหนือซุ้มแก้วขึ้นไปรวมทั้งตัวรูประฆัง เป็นชั้น ๗ มีความหมายที่พบญาณบรรลุมรรคผลนิพพาน ต้องเจริญปฏิบัติธรรมวิปัสสนาญาณปัญญาให้เกิดขึ้นจะข้ามโลกียะ เข้าสู่โลกุตรธรรมได้ต้องผ่านญาณ ๑๖ โดยการเจริญวิปัสสนากรรมฐานตามแนวสติปัฏฐาน ๔ นั่นเอง.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น